26 มิ.ย. 2556
ขนมตาล ขนมไทย
ส่วนผสม
1. แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
2. ลูกตาลสุก 2 ผล
3. น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม
4. มะพร้าว 1 ผล
5. เกลือป่น
6. ถ้วยตะไลหรือกระทงใบตอง
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกลูกตาลออก แล้วยีกับตะแกรง เวลายีต้องหยอดน้ำใส่เม็ดตาลเสมอเพื่อให้เนื้อตาลจะได้ออกจากเม็ดจนหมด
2. กรองเนื้อลูกตาลด้วยผ้าขาวบาง ด้วยการเทใส่ถุงผ้าผูกปากถุงแขวนไว้ น้ำจะไหลออกจากเนื้อตาลแห้งเอง
3. เอาเนื้อตาลออกจากถุง เคล้าผสมกับแป้งให้เข้ากันดี ตั้งผึ่งไว้ให้แป้งขึ้น
4. เมื่อแป้งขึ้นแล้ว ให้ผสมกับน้ำตาล เกลือป่นเล็กน้อย ตักใส่ถ้วยตะไลหรือจะเจียนใบตองก็ได้ ถ้วยละหรือห่อละ 2 ช้อนโต๊ะ
5. ขูดเนื้อมะพร้าวโรยหน้า แล้วห่อให้เรียบร้อย จัดเรียงใส่ลังถึง
6. นึ่งด้วยไฟแรงจัด ให้ขนมตาลสุกฟู
29 พ.ค. 2556
ขนมถ้วยตะไล ขนมไทย
ขนมถ้วยตะไลเป็นขนมไทยที่ทำง่ายและเป็นที่นิยมของคนทุกภาค
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 5 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
มะพร้าว 1 ลูก
แป้งมัน 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำขนมถ้วยตะไล
1. นวดแป้งข้าวเจ้ากับน้ำ 1 ถ้วย จนเข้ากันดี
2. ละลายน้ำตาลกับน้ำเปล่าที่เหลือจนน้ำตาลละลาย กรองด้วยผ้าข้าวบาง นำไปใส่แป้งที่นวดไว้ แล้วใส่ใบเตยคนจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. นำถ้วยตะไลนึ่งในลังถึงจนร้อนได้ที่ จากนั้นตักแป้ง ที่เตรียมไว้ใส่ถ้วยตะไลประมาณครึ่งถ้วย นึ่งไฟแรง 10 นาที
4. นำหัวกะทิผสมเกลือและแป้งมันให้เข้ากัน ตักราดหน้าขนมในถ้วยตะไล นึ่งต่อจนสุกดี ยกลงจากเตา
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 5 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
มะพร้าว 1 ลูก
แป้งมัน 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำขนมถ้วยตะไล
1. นวดแป้งข้าวเจ้ากับน้ำ 1 ถ้วย จนเข้ากันดี
2. ละลายน้ำตาลกับน้ำเปล่าที่เหลือจนน้ำตาลละลาย กรองด้วยผ้าข้าวบาง นำไปใส่แป้งที่นวดไว้ แล้วใส่ใบเตยคนจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. นำถ้วยตะไลนึ่งในลังถึงจนร้อนได้ที่ จากนั้นตักแป้ง ที่เตรียมไว้ใส่ถ้วยตะไลประมาณครึ่งถ้วย นึ่งไฟแรง 10 นาที
4. นำหัวกะทิผสมเกลือและแป้งมันให้เข้ากัน ตักราดหน้าขนมในถ้วยตะไล นึ่งต่อจนสุกดี ยกลงจากเตา
23 พ.ค. 2556
วิธีทำขนมลูกชุบ ขนมไทย
ขนมชนิดนี้เป็นขนมที่นำการฝีมือระหว่างการครัวและงานปั้น ความคิดสร้างสรรค์มารวมไว้ด้วยกัน
ส่วนผสม
1. ถั่วเขียวไม่มีเปลือกนึ่ง 4 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
3. หัวกะทิ 1 ถ้วย
4. วุ้น 2 ถ้วย
5. น้ำเปล่า 4 ถ้วย
6. สีผสมอาหารหรือสีจากธรรมชาติ เช่น สีเหลืองจากขมิ้น สีแดงจากกระเจี๊ยบ สีน้ำเงินม่วงจากดอกอัญชัน สีเขียวจากใบเตย
วิธีทำขนมลูกชุบ
1. นำถั่วเขียวที่นึ่งเตรียมไว้มากวนกับน้ำตาลทราย 1 ถ้วย และหัวกะทิ 1 ถ้วย กวนจนแห้งพอปั้นได้
2. ปั้นเป็นรูปผลไม้ต่างๆ ขนาดเล็กน่ารัก ระบายสีตามชอบ
3. ต้มวุ้น 2 ถ้วยกับน้ำตาล 1 ถ้วย น้ำเปล่า 4 ถ้วย พอละลายหมด พอวุ้นละลายหมด กรองด้วยผ้าขาวบาง (วุ้นควรแช่น้ำไว้นานประมาณ 1 คืน)
4. ใช้ไม้เล็กๆ เสียบที่ขนมที่ปั้นไว้ แล้วนำไปชุบน้ำวุ้นเพื่อความสดใส ประดับขั้วผลไม้ด้วยใบไม้เล็กๆ ให้ดูสวยงาม
20 พ.ค. 2556
วิธีทำข้าวเหนียวแก้ว ขนมไทย
ข้าวเหนียวแก้วนั้นเป็นขนมไทยสีสันเขียวมรกต เป็นเงา รสชาติหวานอร่อย
ส่วนผสม
1.ข้าวเหนียวดิบ 3/4 ถ้วยตวง
2.หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
4.น้ำปูนใส 1/2 ถ้วยตวง
5.เกลีอป่น 1/4 ช้อนชา
6.น้ำใบเตยข้น ๆ 2 ช้อนโตีะ
วิธีทำข้าวเหนียวแก้ว
1. แช่ข้าวเหนียวประมาณ 1 -3 ชั่วโมง นำไปนึ่งให้สุกต้วยไฟกลางประมาณ 20 -25 นาที
2. ใส่หัวกะทิ 1/2 ถ้วย ในภาชนะ นำข้าวเหนียวร้อน ๆ ใส่ลงไปคนให้เข้ากันปิดฝาพักไว้ 20 – 30 นาที
3. ผสมน้ำตาลทราย น้ำปูนใส เกลือป่น และหัวกะทิ 1/4 ถ้วย คนให้เข้ากัน
4. ใส่ส่วนผสมข้อ 2 ลงไป ใช้ไฟกลางกวนให้เข้ากันประมาณ 3 นาที ใส่น้ำใบเตย กวนต่อประมาณ
3-5 นาที ยกลง เทใส่ถาดสี่เหลี่ยม ตัดข้าวเหนียวแก้วเป็นชิ้นๆ
ขนมชั้นอัญชัน ขนมไทย
ขนมชั้น เป็นขนมไทยที่พบเห็นกันมานมนานแล้ว สมัยก่อนจะมีเพียง 2 สีคือ ขาวสลับเขียวอ่อนๆ ซึ่งเป็นสีจากใบเตย รับประทานแล้วได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากใบเตย ถ้าใช้ในงานพิธีมงคลต่างๆ ก็จะนิยมทำเป็น 9 ชั้น แต่มายุคนี้ แม้แต่ขนมชั้นก็ยังต้องเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้สีต่างๆ มาช่วยดึงดูดลูกค้า เช่นทำเป็นขนมชั้นสายรุ้ง ดังนั้นสูตรขนมไทย จึงนำวิธีการทำขนมชั้นอัญชันมาเป็นตัวอย่างของขนมชั้นสีอื่นๆ ถ้าใครอยากจะเพิ่มสีเองก็สามารถทำได้ แต่อย่าลืมว่าต้องหยอดสลับกับสีขาวเสมอ
ส่วนผสม
1. แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
2. แป้งมัน 3/4 ถ้วยตวง + 2 ช้อนโต๊ะ
3. แป้งท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วยตวง + 2 ช้อนโต๊ะ
4. แป้งซ่าหริ่ม (แป้งถั่ว) 1 ช้อนโต๊ะ
5. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
6. หางกะทิ 3/4 ถ้วยตวง
7. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
8. น้ำดอกอัญชัน 1/4 ถ้วยตวง
9. ถาดสี่เหลียมขนาด 4 1/2 x 4 1/2 นิ้ว
10. น้ำมันพืช 1- 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ผสมน้ำตาลทรายกับหางกะทิ คนให้น้ำตาลละลาย พักไว้
2. ผสมแป้งทั้งหมดเข้าด้วยกัน ค่อยๆ เทหัวกะทิใส่ลงไปนวด (ลักษณะปั้นได้)
3. ใส่หัวกะทิที่เหลือทั้งหมด และหางกะทิ ที่ผสมน้ำตาลทรายในข้อ 1. คนให้เข้ากัน
แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
4. แบ่งส่วนผสมทั้ง 2 ส่วน เท่าๆ กัน สานที่ 1 ใส่น้ำอัญชัน 1/4 ถ้วย แล้วคนให้เข้ากัน
ส่วนที่ 2 เป็นสีขาว
5. ตั้งลังถึง ใส่น้ำ 3/4 ของลังถึง เดือดแล้ว นำพิมพ์ทาน้ำมันบางๆ วางเรียง นึ่งพิมพ์
ประมาณ 5 นาที
6. หยอดขนมทีละสี สลับอันจนหมด แต่ละชั้นใช้เวลานึ่งประมาณ 3 นาที หรือสังเกตแป้งจะเริ่มใส แตะดูไม่ติดมือ แต่ต้องจำไว้ว่า ขนมแต่ละชั้นนั้นต้องนึ่งให้สุกเสียก่อน ถ้าชั้นใดชั้นหนึ่งไม่สุก ชั้นต่อไปจะไม่สุกด้วย
7. พักไว้ให้เย็นเเล้วจึงตัดขนมชั้นเป็นชิ้นๆ
25 เม.ย. 2556
ลอดช่องสิงคโปร์
ลอดช่องสิงคโปร์เป็นขนมที่หวาน หอม อร่อย ทานพร้อมน้ำแข็ง ให้รสชาติถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่
แต่การทำขนมชนิดนี้ให้อร่อย แป้งต้องเหนียว และเมื่อแป้งเนียนแล้ว เวลาคลึงแป้งก็ต้องคลึงให้บาง ขนมนี้ต้องหอมนอก หอมตัวขนมและน้ำด้วยจึงจะถูกต้อง
ส่วนผสมตัวขนม
1. แป้งมัน ½ ถ้วยตวง
2. น้ำเดือดใส่สีเขียว ¼ ถ้วยตวง
3. แป้งนวล 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมน้ำเชื่อม
1. น้ำตาลทราย 1 ½ ถ้วยตวง
2. น้ำดอกมะลิ 1 ½ ถ้วยตวง
3. ขนุนหั่นชิ้นเล็กๆ ยาวๆ ½ ถ้วยตวง
ส่วนผสมกะทิ
1. หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
2. เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำลอดช่องสิงคโปร์
1. ใส่แป้งมันในอ่างผสม ทำแป้งเป็นบ่อตรงกลาง ค่อยๆ เทน้ำร้อนใส่ คนเร็วๆจนแป้งจับตัวเป็นก้อน
2. นวดให้เนียน ถ้าไม่อยากให้แป้งติดมือ แตะแป้งมันเล็กน้อย
3. คลึงแป้งให้เป็นแผ่นบางๆ ตัดให้เป็นเส้นเล็ก ๆ พักไว้
4. ต้มน้ำให้เดือด นำแป้งที่ตัดไว้แล้วลงต้มให้สุก เมื่อแป้งลอยตัวและพอง ตักใส่พักในน้ำเย็น เทใส่กระชอนกรองให้สะเด็ดน้ำ
5. ผสมหัวกะทิกับเกลือ ตั้งไฟอย่างพอเดือด ยกลงพักไว้ให้เย็น
6. ใส่แป้งที่ต้มแล้วลงไปในน้ำกะทิ ข้อ 5.
7. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำดอกมะลิใส่หม้อตั้งไฟเคี่ยว ประมาณ 7-10 นาที ใส่ขนุนยกลงพักไว้ให้เย็น อบควันเทียน 20 - 30 นาที
8. ตักเสิร์ฟใส่ขนมที่อยู่ในกะทิ ใส่น้ำ เชื่อม น้ำแข็ง รับประทานเย็นๆ อร่อยชื่นใจ
11 ก.พ. 2556
ข้าวเหนียวมะม่วง
ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นของหวานที่พบเห็นกันทั่วไป มีทั้งเจ้าขนมที่ทำแล้วอร่อย ข้าวเหนียวหวานมัน กะทิเข้มข้น กับเจ้าที่พอทานได้ หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีเคล็ดลับอะไรทำยังไงขนมถึงอร่อย แล้วมาดูเคล็ดลับการทำข้าวเหนียวมะม่วงกันเลยค่ะ
* การนึ่งข้าวเหนียวโดยการใส่ใบเตยลงไปในน้ำ ทำให้ข้าวเหนียวหอม
* การแกว่งด้วยสารส้ม ทำให้ข้าวเหนียวไม่หัก
* อย่านึ่งข้าวเหนียวให้สุกมาก ข้าวเหนียวจะแฉะไม่อร่อย และนึ่งข้าวเหนียวด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อน
* ถ้าทำข้าวเหนียวขนุน ใส่ข้าวเหนียวลงไปในขนุน
* ถ้าทำข้าวเหนียวลูกตาล โรยหน้าด้วย น้ำตาลทราย เกลือ งาดำ งาขาว
* สำหรับมะม่วงถ้ายังไม่เสิร์ฟ ยังไม่ต้องปอก เพราะมะม่วงจะดำ
ส่วนผสมข้าวเหนียวมูน
ข้าวเหนียวเขี้ยวงูดิบ 1 ½ ถ้วยตวง
สารส้ม (สำหรับแกว่งข้าวเหนียว) 1 ก้อน
หัวกะทิ ½ ถ้วยตวง + 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมกะทิราดข้าวเหนียวมูน
หัวกะทิ ½ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ½ ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1 ½ ช้อนชา
ส่วนผสมอื่นๆ
มะม่วงสุก, ขนุนสุก, ลูกตาลเชื่อม,ทุเรียน
ถั่วทองแช่น้ำ 3 ชั่วโมง แล้วคั่วไฟอ่อนๆ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีมูนข้าวเหนียว
1. แช่ข้าวเหนียวในน้ำสะอาด พอท่วมข้าว พักไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
2. แกว่งสารส้มในข้าวเหนียว ประมาณ 4-5 รอบ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2 ครั้ง สรงขึ้นให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปนึ่งในลังถึงที่รองด้วยผ้าขาวบาง นึ่ง 10 นาที แล้วกลับด้านอีก 10 นาทีด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน
3. ผสมหัวกะทิ น้ำตาลทราย เกลือป่น ใส่หม้อตั้งไฟกลาง คนให้เข้ากัน พอน้ำตาลละลาย และเดือดประมาณ 2 นาที เทใส่ภาชนะ พักไว้ให้เย็น
4. เทข้าวเหนียวร้อนๆ ลงในกะทิที่เย็นแล้ว คนด้วยพายเบาๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันดี ปิดฝา พักไว้จนระอุ ประมาณ 30 นาที
5. กลับข้าวเหนียวมูนอีกครั้งเบาๆ ตักเสิร์ฟพร้อมมะม่วงสุก
วิธีทำกะทิราดหน้าข้าวเหนียวมูน
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น ค่อยๆ เทหัวกะทิใส่ทีละน้อย คนให้แป้งละลาย
2. ตั้งไฟกลาง คนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งส่วนผสมเริ่มข้น ประมาณ 3 นาที ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
วิธีเสิร์ฟ
* ข้าวเหนียวมูนจะเสิร์ฟพร้อมกับมะม่วงสุก น้ำกะทิทุเรียน ทุเรียนสด ขนุน ลูกตาลเชื่อม และสังขยาก็ได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)